งานประกอบ 14 แบบ แบบไหนที่ควรทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ แบบไหนไม่ควร?

งานประกอบ 14 แบบ แบบไหนที่ควรทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ แบบไหนไม่ควร? - featured image

งานประกอบมีหลายประเภท แต่งานประกอบที่เหมาะสมกับการทำระบบอัตโนมัติจะเป็นแบบใดบ้าง?

การประกอบเป็นงานที่ผู้ผลิตใช้หุ่นยนต์ในการทำงานอัตโนมัติได้เป็นอย่างดีนะครับ ซึ่งในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายให้คุณเลือกใช้เลยครับ งานประกอบบางประเภทสามารถใช้หุ่นยนต์ในการทำงานได้ง่ายและส่งผลตอบแทนอย่างรวดเร็วแก่การผลิต แต่งานประกอบอื่น ๆ อาจมีความซับซ้อนและมีผลกระทบต่อการผลิตน้อยกว่า

ในบทความนี้ Techy จะมาสรุปให้ว่างานประกอบแบบไหนที่ควรทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ แบบไหนไม่ควร?

งานการผลิตประเภทกว้าง ๆ มีอะไรบ้าง?

เราสามารถแบ่งงานด้านการผลิตออก 2 ประเภทกว้าง ๆ ดังนี้ครับ

  1. งานด้านกระบวนการ (Process Tasks) — งานเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการนำชิ้นงานมาเปลี่ยนแปลงทางกลไกเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน ตัวอย่างของงานด้านกระบวนการในกลุ่มนี้ที่ทำให้เป็นอัตโนมัติได้ เช่น การตัดเฉือน การพิมพ์ 3 มิติ และการตกแต่งพื้นผิว
  2. งานประกอบ (Assembly Tasks) — งานเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการนำชิ้นส่วนที่ผ่านงานด้านกระบวนการแล้วมาประกอบเข้าด้วยกัน

ในบทความนี้ เราขอเน้นไปที่งานประกอบ ซึ่งมี 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ครับ

  1. งานประกอบแบบถาวร (Permanent Joining) นี่คือประเภทของงานประกอบที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ถ้าได้ก็จะยากนะครับ เช่น งานบัดกรีอ่อน งานบัดกรีแข็ง และการยึดเกาะด้วยสารเคมี
  2. งานประกอบแบบทางกล (Mechanical Joining) นี่คือประเภทของงานประกอบที่สามารถย้อนกลับได้ ตัวอย่าง ได้แก่ งานขันสกรู งานสวม (Inserting) และงานผูกปม (knotting)

งานประกอบทั้งสองประเภทนี้ สามารถทำให้เป็นอัตโนมัติได้ด้วยหุ่นยนต์ แต่ควรหรือไม่ควร เหมาะหรือไม่นั้น ลองมาดูงานประกอบทั้ง 14 ประเภทกันว่า ประเภทไหนที่สามารถทำให้อัตโนมัติได้ง่าย และแบบไหนยาก

1. งานยึดเกาะด้วยสารเคมี (Adhesive Bonding)

งานยึดเกาะด้วยสารเคมีเกี่ยวข้องกับการทำให้พื้นผิวของของ 2 ชิ้นยึดเข้าด้วยกันโดยใช้สารเคมีเพื่อสร้างพันธะที่แข็งแรง ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดคือ การติดกาว ที่เป็นงานประกอบที่ไม่ซับซ้อน หุ่นยนต์จึงติดกาวโดยอัตโนมัติได้ค่อนข้างง่าย

2. งานสลักเกลียว (Bolting)

งานสลักเกลียวเป็นหนึ่งในงานประกอบที่ใช้กันทั่วไปในการผลิต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขันนัทและโบลต์เข้าด้วยกัน ข้อต่อสลักเกลียวหลักสองประเภทคือ ข้อต่อแรงดึง และข้อต่อแรงเฉือน

งานสลักเกลียวด้วยหุ่นยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ เหมือนงานขันสกรู แต่ถ้าโบลต์มีขนาดใหญ่ ก็ต้องใช้หุ่นยนต์แขนกลที่ขนาดใหญ่ขึ้นด้วยครับ

3. งานบัดกรีแข็ง (Brazing)

งานบัดกรีแข็งเป็นกระบวนการในการเชื่อม/ยึดติดโลหะสองชิ้นเข้าด้วยกันอย่างถาวร ด้วยการใช้อุปกรณ์บัดกรีที่มีอุณหภูมิสูง ละลายโลหะผสมที่ใช้บัดกรีเพื่อเชื่อมต่อระหว่างสองชิ้น

งานบัดกรีแข็งด้วยหุ่นยนต์เป็นไปได้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับการเชื่อม ที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง

4. งานมัดสายเคเบิล (Cable Tying)

งานผูกสายเคเบิลเป็นวิธีที่รวดเร็วและสามารถย้อนกลับได้ง่ายในการยึดติดของสองชิ้นเข้าด้วยกัน มักใช้เพื่อเชื่อมต่อสายเคเบิลและท่อ

ส่วนที่ยากที่สุดในงานมัดสายเคเบิลด้วยหุ่นยนต์ก็คือการสอดปลายเข้าไปในตอนแรก วิธีแก้ก็คือการใช้ปืนรัดสายไฟอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่ที่ปลายแขนหุ่นยนต์

5. งานย้ำหมุด (Clinching)

งานย้ำหมุดเป็นวิธีการยึดแผ่นโลหะเข้าด้วยกันโดยไม่ต้องเชื่อมหรือรัด มันเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนรูปทางกลไกของโลหะเข้าด้วยกันเพื่อสร้างข้อต่อที่แข็งแรง

งานย้ำหมุดสามารถทำได้ด้วยหุ่นยนต์ แต่อย่างไรก็ตาม ตัองใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่และอุปกรณ์ปลายแขนแบบพิเศษ

6. งานย้ำหางปลา (Crimping)

ลักษณะของงานย้ำหางปลา ก็เหมือนงานย้ำหมุดที่เป็นการยึดติดวัสดุตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปโดยปรับเปลี่ยนรูป (deform) ตัวอย่างทั่วไปคือการย้ำสายไฟเพื่อต่อสายไฟเข้ากับคอนเนคเตอร์

อุปกรณ์ปลายแขนสำหรับงานย้ำหางปลาสำหรับหุ่นยนต์ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก แต่มีเครื่องมือย้ำหางปลาอัตโนมัติมากมายที่คุณสามารถผสานรวมเข้ากับหุ่นยนต์ได้ครับ

7. งานสวม (Inserting)

งานสวมอาจเป็นงานแรกที่คุณนึกถึงเมื่อคุณนึกถึง “การประกอบ” งานสวมคือการดันชิ้นส่วนหนึ่งเข้ากับอีกชิ้นส่วนหนึ่งเพื่อให้สวมพอดีกัน

การทำให้งานสวมเป็นอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ทำได้ง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้โปรแกรมที่มีฟีเจอร์พร้อมอย่างเช่น Spiral Search

8. งานผูกปม (Knotting)

นอตเป็นวิธีการยึดติดหรือเชื่อมต่อระหว่างเชือกและสายอื่น ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นวิธีการเชื่อมที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งสำหรับมนุษย์อย่างเราๆ นะครับ ก็เหมือนเวลาผูกปมรองเท้านั่นแหละครับ

แต่สำหรับหุ่นยนต์แล้ว มันเป็นงานที่ซับซ้อนมาก และยังอยู่ระหว่างการทดลองและวิจัยอย่างต่อเนื่องครับ

9. งานยึดด้วยแม่เหล็ก (Magnet Fastening)

บางครั้งเราต้องการประกอบของ 2 สิ่งที่ง่ายต่อยึดติดและถอดออกซ้ำไปซ้ำมานะครับ สำหรับความต้องการนี้ การยึดด้วยแม่เหล็กเป็นหนึ่งในวิธีการยึดติดเชื่อมต่อที่ใช้บ่อยที่สุด

ความยากง่ายในการทำให้งานยึดด้วยแม่เหล็กของคุณเป็นอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์นั้น ขึ้นอยู่กับความเฉพาะของงานครับ

10. งานตอกตะปูหรืองานเย็บเล่ม

งานประกอบประเภทงานตอกตะปูและงานเย็บเล่ม เป็นลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับการตอกโลหะแข็งรูปหมุดเข้ากับวัสดุทั้งสองชิ้น

งานประกอบประเภทนี้ด้วยหุ่นยนต์เป็นเรื่องปกติมากครับ แต่ต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์ปลายแขนที่เหมาะสม

11. งานขันสกรู

งานขันสกรูเป็นหนึ่งในงานประกอบอัตโนมัติที่พบเห็นได้เยอะที่สุด หุ่นยนต์หยิบสกรูจากเครื่องป้อนสกรูอัตโนมัติ จากนั้นจะขันสกรูเข้าไปในชิ้นงานโดยใช้เครื่องมือปลายแขนเป็นตัวขัน

ด้วยโซลูชัน “งานขันสกรูด้วยหุ่นยนต์” จาก Techy เราสามารถทำให้งานประกอบประเภทนี้ทำได้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

12. งานบัดกรี (อ่อน)

งานบัดกรีอ่อนถูกใช้ในการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อยึดส่วนประกอบกับแผงวงจร หัวแร้งร้อนจับที่หน้าสัมผัสโลหะ หลอมละลายโลหะผสมที่ใช้บัดกรีแทรกซึมเข้าไปในช่องว่างระหว่างรอยต่อ

งานบัดกรีอ่อน ด้วยหุ่นยนต์เป็นรูปแบบการประกอบอัตโนมัติที่พบได้ทั่วไปมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือปลายแขนบัดกรีแบบพิเศษ

13. งาน Staking

งาน Staking เป็นการเชื่อมต่อส่วนประกอบสองชิ้นเข้ากันแบบสวมอัด (interference fit)

งานประกอบประเภทนี้ ฝั่งที่เป็นรูจะมีขนาดเล็กกว่าอีกฝั่งที่อาจจะเป็นแท่งเหล็กหรือแท่งพลาสติก (Boss) เสมอ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกดชิ้นงานในขณะที่ทำการประกอบ หรือใช้อัลตราซาวนด์เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของแท่งเหล็กหรือแท่งพลาสติก (Boss) และยึดเข้ากับรูอย่างแน่นหนา

14. งานเชื่อม (Welding)

งานเชื่อมเป็นงานประกอบที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความร้อน ความดัน หรือทั้งสองอย่างกับชิ้นส่วนโลหะสองชิ้น จากนั้นใช้โลหะผสมที่ใช้บัดกรีเพื่อหลอมโลหะทั้งสอง แตกต่างจากการบัดกรีแข็งตรงที่ความร้อนจะสูงกว่ามาก

การเชื่อมด้วยหุ่นยนต์เป็นแอปพลิเคชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ผลิต ซึ่งมีข้อดีมากมายกว่าการเชื่อมแบบแมนนวลหรือเชื่อมด้วยมนุษย์ รวมถึงความสม่ำเสมอที่ดีขึ้น การทำความสะอาดหลังการเชื่อมน้อยลง และการใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สรุป

จากงานประกอบทั้งหมด 14 รายการ (จริง ๆ อาจจะมีประเภทอื่น ๆ อีกนะครับ) คำถามก็คือ งานประกอบแบบไหนที่คุณควรทำให้เป็นระบบอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ในสายการผลิตของคุณ

กฎพื้นฐานของการสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับ Techy ก็คือ คุณควรเลือกงานที่

  • ง่ายต่อการทำให้เป็นระบบอัตโนมัติหรือใช้หุ่นยนต์แขนกล
  • ชิ้นงานหรือชิ้นส่วนที่ต้องนำมาประกอบกัน ต้องเป็นชิ้นงานหรือชิ้นส่วนที่ถูกผลิตด้วยความแม่นยำ สม่ำเสมอ เช่น สูงเท่ากัน รูกว้างเท่ากัน ตำแหน่งเดียวกัน ฯลฯ
  • เป็นงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ อย่างเสมอ
  • สร้างผลกระทบที่ดีสำหรับธุรกิจของคุณ

หากยังไม่แน่ใจว่างานประกอบที่อยู่ในสายการผลิตงานของคุณ สามารถทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ไหม มาพูดคุยหรือปรึกษาเราเพิ่มเติมได้ที่ Line: @techy นะครับ

เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ
ลดต้นทุน เพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณ

Hotline

+6682-114-5677

Line

@techy

Office

+662-101-4653

เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ
ลดต้นทุน เพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณ

Hotline

+6682-114-5677

Line

@techy

Office

+662-101-4653

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า