Cobot คืออะไร
Cobot (อ่านว่า โคบอท) ย่อมาจาก Collaborative Robots แปลได้ว่า หุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อทำหน้าที่ร่วมกับมนุษย์ในภาคอุตสาหกรรม ตามมาตรฐาน ISO 10218-1 หรือภายใต้ตามมาตรฐานความปลอดภัยอื่น ตามคำนิยามของสมาพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ
โคบอท มักจะมีรูปร่างเป็นแขนกล ขนาดกระทัดรัด ทำงานร่วมกับมนุษย์บนโต๊ะได้อย่างปลอดภัย และใกล้ชิดภายในพื้นที่เดียวกัน หรือที่เราเรียกว่า Desktop Robot Arm (บางรุ่นอาจะไม่ใช่ Cobot ก็ได้)
โคบอท ผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบา โดยปกติโคบอทจะมีราคาสูงกว่าแขนกลดั้งเดิมในขนาดที่เท่ากัน ช่วยมนุษย์อย่างเรา ๆ ในการทำงานหยิบ จับ จัดเรียงชิ้นส่วนต่าง ๆ แม้กระทั่งผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็ก ต้องการความละเอียด หรือในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์
Cobot ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย เพราะมีระบบเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย เช่น ลดความเร็ว หยุดทำงาน หรือหลบหลีกได้เองเมื่อมีมนุษย์หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปใกล้ หรือเกิดการชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้งาน
แล้ว Cobot ต่างจาก Traditional Industrial Robots (หุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม) อย่างไร ?
แม้ว่าจะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายคลึงกัน แต่หุ่นยนต์ทั้งสองประเภทนี้ก็มีคุณสมบัติที่แยกออกจากกัน ตามบทบาทหน้าที่ที่พวกมันมีต่อมนุษย์
ความแตกต่างที่โดดเด่นระหว่าง โคบอทกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า“ หุ่นยนต์”) ก็คือ โคบอทไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่เป็นการทำงานร่วมกับมนุษย์
แต่ความแตกต่างของโคบอทและหุ่นยนต์มีมากกว่านั้นครับ เพื่อให้คุณเข้าใจถึงพื้นฐาน มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องทราบคุณสมบัติทั้งหมด ที่ทำให้ทั้งสองอย่างแตกต่างกัน
นี่คือคุณสมบัติที่แตกต่างกัน 4 ประการระหว่างโคบอทและหุ่นยนต์
คุณสมบัติที่แตกต่างกัน 4 ประการระหว่างโคบอทและหุ่นยนต์
1. หุ่นยนต์เข้ามาแทนที่พนักงาน ในขณะที่โคบอททำงานร่วมกับพนักงาน
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมทำงานบนระบบอัตโนมัติในส่วนของสายการประกอบ ซึ่งสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากมนุษย์เลย หน้าที่ของหุ่นยนต์มักจะเป็นการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น เครื่องมือเชื่อมขนาดใหญ่ ทำงานด้วยความเร็วและความคล่องแคล่วสูง เป็นผลให้พนักงานสามารถทำงานอื่น ๆ ได้ ช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บของพนักงานจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ หรือยกของหนัก
ในขณะเดียวกัน โคบอทมักจะช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานที่เป็นมนุษย์ สามารถทำหน้าที่ที่อาจเป็นอันตราย เกินกว่าพนักงานที่จะทำคนเดียวให้สำเร็จ นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งไม่สามารถดำเนินการโดยอัตโนมัติได้ทั้งหมดเช่น การจัดการสายไฟภายในเครื่องใช้ไฟฟ้า การทำงานเป็นทีมระหว่างมนุษย์และโคบอทนี้ ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้ผลลัพธ์มากขึ้นครับ
2. ทักษะที่จำเป็นในการเขียนโปรแกรม
ความแตกต่างอีกอย่างระหว่างหุ่นยนต์และโคบอทคือ ทักษะที่จำเป็นในการเขียนโปรแกรม วิศวกรผู้ควบคุมหุ่นยนต์จำเป็นต้องมีทักษะในการเขียนโปรแกรม เนื่องจากต้องเขียนโปรแกรมควบคุมการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์เองทั้งหมด
นอกจากนี้ผู้ผลิตหุ่นยนต์ส่วนใหญ่มีภาษาการเขียนโปรแกรมของตนเอง ซึ่งพนักงานต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อที่จะใช้หุ่นยนต์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ในขณะที่โคบอทบางรุ่นสามารถที่จะใช้มือสอนโคบอทในการเคลื่อนที่ตามเส้นทาง หรือจุดต่าง ๆ ได้ (Hand Teaching Function) เช่น Dobot MG-400 (ที่ถึงแม้ไม่ใช่ Cobot 100% แต่มีฟังก์ชั่นบางอย่างของ Cobot เช่น ใช้มือสอนได้) หรือ Dobot รุ่น CR Series ซึ่งจะลดภาระการเขียนโปรแกรมของวิศวกร และสามารถติดตั้งระบบได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
และทางเรา บริษัท Techy ก็มีบริการอบรมการใช้งานโคบอดให้กับผู้ใช้งาน เพราะฉะนั้น หมดห่วงได้เลยครับว่าจะใช้ไม่เป็น หรือใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
3. หุ่นยนต์ต้องตั้งอยู่กับที่ ในขณะที่โคบอทบางตัวสามารถเคลื่อนที่ได้ และมีความยืดหยุ่น
หุ่นยนต์มักจะยึดติดอยู่ที่ เช่น พื้น เพราะโดยปกติหุ่นยนต์จะทำงานเฉพาะอย่างโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายไปรอบ ๆ โรงงาน ดูๆแล้วอาจเป็นข้อเสีย แต่สิ่งนี้เป็นความจำเป็นด้านความปลอดภัยมาก ๆ ครับ
แต่โคบอทส่วนใหญ่ จะมีน้ำหนักเบาพอสำหรับพนักงานคนเดียวในการขนย้าย พนักงานยังสามารถเคลื่อนย้ายโคบอทไปรอบ ๆ ได้อย่างง่ายดาย หรือสามารถติดตั้งโคบอทบนโครงสร้างที่มีลูกล้อ ซึ่งทำให้การย้ายจุดทำงานของโคบอทสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
ส่วนความยืดหยุ่นนั้น โคบอทส่วนใหญ่อาจติดตั้งบนผนัง เพดาน หรือตั้งโต๊ะ (Desktop Robot Arm) นอกจากนี้ยังมี End Factor (เครื่องมือที่ติดปลายแขนหรือ Tool) ที่หลากหลาย ให้เลือกรวมถึงกริปเปอร์ และดอกสว่าน ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานให้กับโคบอท
4. หุ่นยนต์เหมาะกว่าสำหรับงานปริมาณมาก แต่ไม่ซับซ้อน ในขณะที่โคบอทเหมาะกว่าสำหรับงานที่ซับซ้อน
เนื่องจากความเร็วและระบบอัตโนมัติที่สมบูรณ์ หุ่นยนต์จึงยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับงานที่ต้องการปริมาณมาก ๆ หรือในสถานการณ์ที่เป็นอันตราย (เช่น การสัมผัสสารอันตราย หรืออุณหภูมิสูง)
แม้โคบอทอาจทำงานได้โดยไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากมนุษย์ แต่ก็ยังคงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความร่วมมือจากผู้ปฏิบัติงานที่เป็นมนุษย์ โคบอทจึงเหมาะกับงานที่มีความซับซ้อน และยังคงยากสำหรับระบบ Automation
โคบอทยังเหมาะสำหรับผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก กลาง และรายใหญ่ ช่วยให้บริษัทเริ่มนำระบบอัตโนมัติเข้ามาร่วมทำงานด้วยไม่ยาก ลงทุนไม่สูง (เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์) และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโคบอทจะใช้งานกับโรงงานขนาดใหญ่ไม่ได้นะครับ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะสร้างสรรวิธีการใช้งานโคบอทให้เหมาะกับเราได้อย่างไรมากกว่า
สั้น ๆ เลยคือ โคบอท ติดตั้งง่ายกว่า ยืดหยุ่นกว่า และเหมาะสมกว่าสำหรับงานที่มีความซับซ้อน และยังคงต้องการมนุษย์มาร่วมทำงาน
สรุป
คุณไม่จำเป็นต้องฟันธงเลยว่า โคบอทหรือหุ่นยนต์ แบบไหนดีกว่ากัน เพราะสุดท้ายบทบาทการทำงานของทั้งสองชนิดแตกต่างกัน
หากธุรกิจของคุณยังคงมีมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของสายงาน และงานมีความซับซ้อนที่ระบบอัตโนมัติยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ 100% แต่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต โคบอทก็คือคำตอบที่คุณกำลังมองหาครับ
สนใจใช้ Automation Machine หรือ Cobot ในธุรกิจคุณ ติดต่อได้ที่
Line: @techy
Phone: +6681-918-9904, +6687-066-2828